5 ข้อควรทำ ขับขี่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน
โพสต์เมื่อวันที่ 22 Jul 24
ฝนตกลงมาทีไรก็มีเรื่องหนักใจให้คนใช้รถทุกที เพราะนอกจากจะรถติด ถนนลื่น และเดินทางลำบากแล้ว ยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่ทำให้เราเสียทั้งเงิน และเวลาอีกด้วย
ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ Mr. FIT ก็มี 5 วิธีที่จะทำให้การขับขี่ช่วงหน้าฝนนี้ ปลอดภัยยิ่งขึ้นมาแนะนำทุกคนครับ
ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจเช็กใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ หากเปิดใช้งานใบปัดน้ำฝนแล้วพบว่าปัดแล้วมีคราบน้ำตกค้างหรือคราบน้ำเป็นเส้นๆ ปัดไม่สะอาด หรือมีเสียงรบกวนขณะใช้งาน อาจหมายความว่ายางเสื่อมสภาพแล้ว ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับฝนที่ตกลงมา เพื่อทัศนวิสัยที่ชัดเจนและไม่บดบังการมองเห็นขณะขับขี่
เหตุผลที่ต้องระวังข้อนี้ก็เป็นเพราะน้ำท่วมสูงอาจจะสร้างปัญหาหลาย ๆ อย่าง เช่น รถอาจตกหลุมหรือบ่อที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น น้ำซึมเข้ามาในตัวรถจนรถเหม็นอับ พัดลมแอร์พัดน้ำเข้ามาในห้องเครื่องจนทำให้รถดับ หรือน้ำอาจจะเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่องได้
ควรเว้นระยะห่างประมาณ 10 - 15 เมตร เพื่อป้องกันการเบรกกระทันหันจนไปชนท้ายรถคันข้างหน้าได้ นอกจากนี้ก็ไม่ควรขับแซงหรือปาดหน้าคันอื่น เพราะการขับรถบนถนนที่ฝนตกลื่น จะควบคุมได้ยากกว่าสภาวะที่ถนนแห้ง
การเปิดไฟรถนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางได้ชัดขึ้นแล้วยังทำให้รถคันอื่นสามารถมองเห็นรถของเราได้ชัดเจนขึ้นด้วย ทำให้ผู้ร่วมทางของเราเว้นระยะห่างขณะอยู่บนท้องถนนได้เหมาะสมและช่วยป้องกันการเฉี่ยวชนที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
การเหยียบเบรกกระทันหันอาจส่งผลให้รถของคุณลื่นไถลและอาจส่ายไปชนคันอื่นได้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือไม่ควรขับรถเร็วจนเกินไป และค่อยๆ แตะเบรกเบาๆ เพื่อชะลอความเร็ว แต่หากมีเหตุจำเป็น เช่น มีสิ่งกีดขวางข้างหน้า ก็ควรตั้งสติและควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคงเพื่อรถจะได้ไม่เสียการทรงตัว
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นวิธีขับขี่บนท้องถนนช่วงหน้าฝนที่ Mr.FIT ได้นำมาฝากกันนะครับ และถ้าใครอยากเพิ่มความมั่นใจขึ้นไปอีกขั้น ก็แวะเข้ามาเช็กรถที่หน้าสาขาได้เลย
เราพร้อมให้บริการตรวจเช็กฟรี 35 รายการ (มูลค่า 250 บาท) ให้ลูกค้าทุกท่าน ทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 - 19.00 น. ครับ