ส่องพฤติกรรม เสี่ยงโช้คอัพพังที่ควรรู้

โช้คอัพถือเป็นอุปกรณ์ช่วงล่างชิ้นสำคัญที่ผู้ขับขี่หลายคนน่าจะรู้จัก เพราะหากไม่มีสิ่งนี้ ก็ย่อมไม่มีอุปกรณ์ช่วยเข้าโค้ง ควบคุมการขับขี่ให้นุ่มนวล หรือลดการสั่นสะเทือนขณะขับขี่ และหลังจากใช้งานไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เราก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยหรือกระทำบางสิ่งที่อาจส่งผลให้โช้คอัพชำรุดได้ ดังนั้น วันนี้ Mr.FIT จะมาเฉลยกันครับว่า พฤติกรรมเหล่านั้นมีข้อใดบ้าง

1.ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด

หากเป็นถนนหรือเส้นทางปกติ อาจจะยังไม่พบปัญหาเท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นถนนที่ขรุขระ เป็นดินลูกรังมีหลุมลึก หรือมีลูกระนาด ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดแรงกระแทกต่อช่วงล่างได้ ทางที่ดีควรค่อย ๆ ชะลอความเร็ว หากเห็นลูกระนาดหรือถนนที่มีหลุม

2.บรรทุกของเกินขนาด

การบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ ในรถเพื่ออำนวยความสะดวกจนลืมคำนึงถึงความปลอดภัย อาจส่งผลช่วงล่างของรถมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากน้ำหนักที่มากเกินก่อให้เกิดเหตุการณ์รถเสียหลักหรือเสียสมดุลการถ่ายเทน้ำหนักได้ เพราะล้อรถยนต์จะมีแรงยึดเกาะถนนน้อยลง เข้าโค้งได้ลำบากและประสิทธิภาพของเบรกลดลง

3.ไม่เปลี่ยนโช้คอัพ แม้ว่าจะใช้งานจนชำรุดแล้ว

การดันทุรังใช้โช้คอัพที่ชำรุดแล้ว มีแต่จะส่งผลให้ระบบช่วงล่างอย่าง ลูกหมาก สปริง หรือชุดคันส่งทะยอยเสื่อมสภาพตามกันไป เนื่องจากอุปกรณ์ต่าง ๆ มีส่วนที่เชื่อมต่อกัน และต้องทำงานร่วมกันเป็นระบบ หากชิ้นใดชิ้นหนึ่งชำรุดก็ควรรีบเปลี่ยนทันที โดยเฉพาะยางจะสึกหรอเร็วก่อนกำหนด

4.ไม่ตรวจสภาพรถเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด

ควรนำรถไปตรวจสภาพอย่างน้อยประมาณ 6-12 เดือนครั้ง หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของระบบช่วงล่าง หรือระบบอื่น ๆ หากพบชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ชำรุด เช่น โช้คอัพเสียข้างเดียว หรือมีคราบน้ำมันรอบโช้คอัพ จะได้ดำเนินการเปลี่ยนหรือซ่อมได้ทันท่วงที

สำหรับท่านใดที่ต้องการตรวจเช็กช่วงล่างหรือระบบโช้คอัพ ก็สามารถเข้ามารับบริการเปลี่ยนโช้คอัพหรือตรวจเช็กฟรี 35 รายการได้ที่ FIT Auto ทุกสาขาเลยครับ เรามีสินค้าคุณภาพ พร้อมทีมช่างผู้มืออาชีพที่พร้อมให้บริการคุณลูกค้าทุกท่านเลยครับ

version: 1.0.3