รถติดๆ ดับๆ อย่าทึกทักว่าผีหลอก มาเช็กอาการหาสาเหตุที่แท้จริงกันพร้อมวิธีการดูแลรักษายังไงให้รอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้

ลองนึกภาพตามกันนะครับทุกคน ถ้าคุณกำลังขับรถเพลินๆ อยู่ดีๆ กลางป่าเขาหรือในเมือง ในบรรยากาศใกล้ค่ำ จู่ๆ รถก็เกิดอาการสั่นกระตุก สะดุดไปตลอดทาง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ รถติดๆ ดับๆ เหมือนจะขาดใจ พร้อมทั้งเครื่องยนต์ก็วูบดับไปต่อหน้าต่อตา เอาละครับ! ในใจหลายคนน่าจะคิดว่าคงโดนเข้าแล้ว อย่าครับ! อย่าเพิ่งทึกทักว่าผีหลอก อาการรถติดๆ ดับๆ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุครับผม เราลองมาดูกันสักหน่อยว่าอะไรที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น พร้อมทั้งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต้องเอาตัวรอดบนท้องถนนอย่างไรดี ตาม Mr. FIT ไปเช็กกัน

ส่วนใหญ่อาการรถติดๆ ดับๆ เกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ หลวม หรือไม่สะอาด รวมไปถึงเรื่องแบตเตอรี่ ที่อาจจะเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุ ซึ่งสาเหตุที่หลากหลายนี้เกิดได้กับทั้งรถเก่าและรถใหม่ป้ายแดง อาจก่อให้เกิดอันตรายขณะขับขี่บนท้องถนนได้ และสาเหตุโดยส่วนใหญ่ที่พบนั่นก็คือ

- SCV วาล์วเสีย (ในเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล)

SCV (Suction control valve) คือ วาล์วตัวจ่ายน้ำมันเข้าตูดปั้ม หาก SVC เสีย อาการ เร่งไม่ขึ้น เครื่องสั่น จนทำให้เกิดรถวูบดับกลางอากาศได้ในที่สุด รวมไปถึงเมื่อคุณไม่ได้เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง หรือเปลี่ยนกรองน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำมันที่สกปรกเข้าสู่ระบบจนทำให้วาล์วสกปรกติดขัดจนเปิดให้น้ำมันเชื้อเพลิงไหลผ่านไปยังหัวฉีดไม่ได้ ส่งผลต่ออาการรถติดๆ ดับๆ ที่จะตามมาในที่สุด

- ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเสื่อมสภาพหรืออุดตัน

เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการรถติดๆ ดับๆ และวูบไปขณะขับขี่ ซึ่งโดยปกติทุก 5 ปี หรือ ครบทุก 20,000 - 25,000 กิโลเมตร ควรทำการตรวจเช็กและเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความปลอดภัย ป้องกันการเกิดอาการเครื่องยนต์ติดๆ ดับๆ สตาร์ทติดยาก และทำให้เครื่องดับกลางอากาศในที่สุด(ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลจะทำหน้าที่ดักน้ำไว้ด้วย)

- หัวเทียนเก่าหรือเสื่อมสภาพ

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการรถรถติดๆ ดับๆ เครื่องสตาร์ทติดยาก เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ เนื่องจากหัวเทียนเก่า จุดประกายไฟได้ยาก หรือจุดระเบิดได้ไม่สม่ำเสมอ สายหัวเทียนขาดในหรือคอยล์จุดหัวเทียนเสื่อม เขี้ยวห่าง เพราะเกิดจากการสึกกร่อนมาก ก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งระยะเวลาในการเปลี่ยนหัวเทียน ควรอยู่ที่ทุก 40,000 กิโลเมตรของการขับขี่

- หัวฉีดรั่วซึมหรืออุดตัน

เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันท่วมในห้องเผาไหม้(เครื่องเบนซินคาร์บูเรเตอร์) คล้ายเครื่องยนต์จมน้ำ ทำให้รถมีอาการสะดุด กระตุกได้ หรือแม้แต่หัวฉีดเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดและเครื่องยนต์ดีเซลหัวฉีดอาจมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันอยู่ด้านใน ทำให้หัวฉีดไม่สามารถจ่ายน้ำมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็ทำให้เครื่องยนต์สั่น เกิดอาการถติดๆ ดับๆ ได้ในที่สุด แถมยังเป็นสาเหตุของรถกินเชื้อเพลิงมากกว่าปกติอีกด้วย ซึ่งหัวฉีดนั้นมีอายุการใช้งานเต็มประสิทธิภาพอยู่ที่ 70,000 - 100,000 กิโลเมตรหลังจากนั้น ก็ควรจะทำการตรวจเช็กหรือล้างหัวฉีดและเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

- ขั้วลบแบตเตอรี่หลวม

ลองสังเกตไฟที่หน้าปัดรถให้ดีว่ามีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเรื่องของแบตเตอรี่ขึ้นหรือไม่ เพราะเมื่อขั้วแบตเตอรี่ทั้งขั้วบวกและขั้วลบเกิดอาการหลวม ทำให้การชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์และการจ่ายไฟไปใช้ยังคอยล์หัวเทียนหรือSCV วาล์วได้ยากขึ้นหรือไม่ได้เลยเครื่องยนต์จึงเกิดอาการรถติดๆ ดับๆ ขึ้นได้ ซึ่งการตรวจเช็กแบตเตอรี่ ไม่เพียงแต่ต้องตรวจบริเวณขั้วแบตทั้งขั้วบวกและลบเท่านั้น ในส่วนของน้ำกลั่นก็ควรตรวจเช็กให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ด้วยเช่นกัน

- ลิ้นปีกผีเสื้อสกปรก

ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติมาก เนื่องจากลิ้นปีกผีเสื้อทำหน้าที่หมุนเปิด/ปิด ควบคุมให้อากาศภายนอกผ่านเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ หากรอบเครื่องยนต์เริ่มไม่นิ่ง สวิง รถติดๆ ดับๆ เครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้น และพบคราบน้ำมันเขม่าดำติดอยู่ ควรทำความสะอาดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการขับขี่

แล้วหากเกิดเหตุการณ์ รถติดๆ ดับๆ แน่นิ่งไปกลางอากาศขณะขับแบบนี้ ต้องเอาตัวรอดแบบไหน? สิ่งแรกที่ควรทำเลยครับคือ

1. ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก แล้วเริ่มเปิดไฟฉุกเฉิน ให้สัญญาณรถทางด้านหลังหรือเพื่อนร่วมทางรู้ว่ารถของเรากำลังเกิดปัญหา
2. ค่อยๆ เหยียบเบรก อย่าเหยียบเบรกโดยกระทันหันทันที เพราะอาจทำให้รถเกิดอุบัติเหตุจากรถคันหลังที่ตามมาได้ แล้วค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทาง หากเป็นไปได้
3. ปลดเกียร์ว่าง แล้วลองสตาร์ทใหม่อีกครั้ง หากยังคงสตาร์ทไม่ติด ค่อยๆ นำรถเข้าข้างทาง เพื่อไม่ให้เป็นการกีดขวางการจราจร
4. ห้าม หรืออย่าพยายามขับรถต่อไปโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะยิ่งทำให้เครื่องยนต์เสียหายไปกว่าเดิม

ควรติดต่อศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมรถเพื่อเข้ารับการตรวจสอบความผิดปกติ และนำเข้าศูนย์เพื่อซ่อมแซมต่อไป

ทางที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น Mr. FIT แนะนำว่า ควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถติดๆ ดับๆ และวูบไปกลางท้องถนน หรือถ้าใครต้องการช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งบริการการตรวจสภาพรถที่ได้มาตรฐาน มองหาบริการเหล่านี้ได้ที่ FIT Auto ทุกสาขาใกล้บ้านคุณเลยครับผม

📱 ติดตามข่าวสารทาง Instagram : https://bit.ly/3it73jd

📲 โหลด FIT Auto ได้แล้ววันนี้ : https://downloadapp.pttfitauto.com/

🕵 ค้นหา FIT Auto ใกล้บ้าน : www.pttfitauto.com/th/branch

🔧 จองบริการตรวจเช็กฟรี : www.pttfitauto.com/th/booking

☎️ ติดต่อ Call Center โทร : 1365 กด 17

#ทุกเครื่องฟิตต่อติดทุกเส้นทาง

#FITAuto #เชี่ยวชาญบริการจากใจ