เช็กยางให้ชัวร์! ไม่ต้องกลัวตอนลุยฝน
โพสต์เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 22
หน้าฝนนี้มาเช็กสภาพยางรถให้พร้อม ก่อนขับลุยบนถนนลื่น เพื่อความปลอดภัยในทุกการขับขี่
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ การขับขี่บนท้องถนนถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากสภาพถนนจะเปียกลื่น ยากต่อการควบคุมรถแล้ว “ยาง” ถือเป็นส่วนประกอบหลักที่ต้องให้ความสำคัญในการขับขี่เป็นอย่างมาก เพราะยางเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักของรถทั้งคันเอาไว้ สภาพของยางรถ ดอกยาง อายุการใช้งานของยาง ลมยาง จึงถือเป็นหัวใจหลักสำคัญที่ต้องตรวจเช็กสภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย วันนี้ Mr.FIT มีเคล็ดลับเพิ่มความมั่นใจ ในการเช็กสภาพยางรถยนต์ให้ลุยกันในหน้าฝนนี้ครับ
วิธีการเช็กสภาพยาง
- อายุของยางรถยนต์
ยางรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 4-5 ปี (นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน) หรือ 50,000-80,000 กิโลเมตรขึ้นไป แต่หากรถไม่ค่อยได้ขับ ยางไม่ค่อยได้ถูกการใช้งาน ก็อาจจะสามารถยืดอายุการใช้งานไปได้อีก 4-5 ปีเลยทีเดียว ดังนั้น ควรเข้าศูนย์ที่มั่นใจได้ ตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ แม้ไม่ได้ขับรถบ่อย
- ดอกยาง
เป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการยึดเกาะถนน และรีดน้ำออกจากหน้ายาง เพื่อบุกลุยฝ่าพื้นถนนเมื่อทำการขับขี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ดอกยาง ควรมีความลึกไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร โดยที่ดอกยางใหม่ ควรมีความลึกอยู่ที่ 6-8 มิลลิเมตร คุณสามารถสังเกตความลึกของดอกยางได้ด้วยตัวเอง โดยเอาเหรียญบาท มาวางไว้ระหว่างร่อง หรือ ช่องระหว่างดอกยาง สังเกตความสูง หากน้อยกว่า 1 ใน 3 ของเหรียญบาท ถือว่าดอกยางของคุณเหลือน้อยแล้ว เตรียมตัวเปลี่ยนยางเพื่อความปลอดภัยกันจะดีกว่าครับ
- ลมยาง
ควรทำการเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยค่าของการเติมลมยางในหน้าฝนควรเพิ่มจากปกติ 2-3 ปอนด์ เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดี อย่าลดค่าลมยาง ตามความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมา เพราะจะทำให้ยางไม่สามารถรีดน้ำได้ทัน ส่งผลให้การยึดเกาะถนนไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังอาจเกิดอาการ “รถเหินน้ำ” ได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย
- การสลับยางรถ
การสลับยางควรทำในทุกๆ 1 หมื่นกิโลเมตร โดยแนะนำให้สลับยางล้อคู่หน้า และ ยางล้อคู่หลัง เพื่อให้ดอกยางทุกล้อมีการใช้งาน และ ความสึกหรอที่ใกล้เคียงกัน การสลับยางรถนอกจากจะช่วยทำให้ดอกยางใช้งานได้อย่างใกล้เคียงกันแล้ว ยังสามารถยืดอายุการใช้งานของยางรถได้อีกด้วย
ในความเป็นจริงการตรวจเช็กสภาพยางรถ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกัน และช่วยให้การขับขี่ในหน้าฝนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ วิธีการการขับขี่รถในช่วงหน้าฝน ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้
วิธีการขับรถลุยฝนให้ปลอดภัย
- ความเร็วในการขับขี่ ไม่ควรเกิน 60 กม./ชม. อย่าขับเร็วจนเกินไป เพราะจะทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างยากลำบาก และ อาจเกิดอาการรถเหินน้ำได้
- เปิดไฟใหญ่ในการขับรถขณะฝนตก เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าสักนิด โดยประมาณ 10-15 เมตร เพื่อความปลอดภัยในขณะที่ต้องเบรกกระทันหัน
- เลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ หลุมน้ำ หรือ บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และอย่าขับเร็ว หรือ ขับเร่ง เมื่อต้องผ่านแอ่งน้ำ เพราะอาจเกิดรถเหินน้ำ หรือ ลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้
- ใช้เกียร์ต่ำในการขับขี่ เพื่อให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น
- เปิดที่ปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับปริมาณฝนที่ตกลงมา ไม่ช้า หรือ เร็วจนเกินไป เพื่อทัศนวิศัยในการขับขี่ที่ดี พร้อมทั้งควรเช็กอายุการใช้งานที่ปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอและเช็กน้ำยาฉีดกระจกให้เต็ม
ทั้งหมดนี้ คือวิธีการ เช็กยางรถให้ชัวร์ เพื่อพร้อมขับขี่ออกลุยในหน้าฝนที่ Mr. FIT เอามาฝากกันครับหากคุณอยากเพิ่มความมั่นใจในการตรวจเช็ก แวะเข้ามาที่ FIT Auto ได้ทุกสาขาใกล้บ้าน เรามีช่างผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมให้บริการตรวจเช็กสภาพยางรถและ อื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งสามารถเข้ารับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้เลยครับ
📱 ติดตามข่าวสารทาง Instagram : https://bit.ly/3it73jd
📲 โหลด FIT Auto ได้แล้ววันนี้ : https://downloadapp.pttfitauto.com/
🕵 ค้นหา FIT Auto ใกล้บ้าน : www.pttfitauto.com/th/branch
🔧 จองบริการตรวจเช็กฟรี : www.pttfitauto.com/th/booking
☎️ ติดต่อ Call Center โทร : 1365 กด 17
#FITAuto #เชี่ยวชาญบริการจากใจ