รถเหินน้ำ อาจเกิดจากดอกยางเสื่อม

รถเหินน้ำ ภัยร้ายของการขับขี่ในหน้าฝน โดยสาเหตุอาจเกิดจากดอกยางเสื่อม ทำให้ยางไม่เกาะถนน มาเช็กยางให้ชัวร์เพื่อความปลอดภัยกัน

หน้าฝนยังไม่จบ อย่าเพิ่งวางใจ มาเช็กยางกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่กันนะครับ ครั้งนี้ Mr. FIT ขอนำเสนอข้อควรระวังในการขับรถเมื่อต้องเจอแอ่งน้ำบนพื้นถนน ซึ่งมีผลกับการยางและการขับขี่โดยตรง อาจก่อให้เกิดอาการ “รถเหินน้ำ” ขึ้นได้ พร้อมทั้งจัดวิธีการรับมือ และสังเกตุยางรถ ก่อนเกิดอาการรถเหินน้ำมาให้ทุกคนได้รู้ด้วยครับ

รถเหินน้ำ ภัยร้ายของการขับขี่ในหน้าฝน โดยสาเหตุอาจเกิดจากดอกยางเสื่อม ทำให้ยางไม่เกาะถนน มาเช็กยางให้ชัวร์เพื่อความปลอดภัยกัน

หน้าฝนยังไม่จบ อย่าเพิ่งวางใจ มาเช็กยางกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่กันนะครับ ครั้งนี้ Mr. FIT ขอนำเสนอข้อควรระวังในการขับรถเมื่อต้องเจอแอ่งน้ำบนพื้นถนน ซึ่งมีผลกับการยึดเกาะถนนของหน้ายางและการขับขี่โดยตรงรวมทั้งไม่สามารถการควบคุมพวงมาลัยให้เลี้ยวไปซ้ายหรือขวาได้ตามต้องการ ซึ่งอาการเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดอาการ “รถเหินน้ำ” ขึ้นได้ พร้อมทั้งจัดวิธีการรับมือ และสังเกตยางรถ ก่อนเกิดอาการรถเหินน้ำมาให้ทุกคนได้รู้ด้วยครับ

อาการรถเหินน้ำ ภัยหลักของการขับรถหน้าฝน

รถเหินน้ำ หรือ อาการเหินน้ำ (Hydroplaning) เกิดจากการขับรถบนถนนที่เปียก หรือ ผ่านบริเวณที่มีแอ่งน้ำ ทำให้ยางรถยนต์ ไม่สามารถสัมผัสกับพื้นผิวถนนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งร่องรีดน้ำบนหน้ายางไม่สามารถรีดน้ำออกได้ทัน(ตื้นเกินไปประมาต่ำกว่า1.6-2 มิลลิเมตร) และ เนื่องจากน้ำเข้าไปแทรกระหว่างร่องรีดน้ำบนหน้ายางกับพื้นถนน ทำให้น้ำถูกกักกไว้นานหรือรีดออกจากหน้ายางได้ช้าเกินไป ทำให้น้ำดันหน้ายางให้ลอยขึ้นเหนือผิวถนน คือไม่แตะพื้นนั้นเอง ส่งผลให้รถเสียการทรงตัว และอาจเกิดอุบัติเหตุได้

สาเหตุหลักของอาการเหินน้ำ

1. ขับรถด้วยความเร็ว
การขับขี่ด้วยความเร็วจนเกินไป มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ยางไม่สามารถรีดน้ำได้ทัน ซึ่งโดยส่วนมากยางรถยนต์จะสามารถรีดน้ำได้ในอัตรา 10-15 ลิตร/วินาที ขึ้นไป ซึ่งหากมีปริมาณน้ำที่มากจนเกินไป ประกอบกับการขับขี่ด้วยความเร็ว ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการรถเหินน้ำได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรขับขี่อยู่ในความเร็ว 80 กม./ชม. ก็จะป้องกันอาการดังกล่าวได้ครับ

2. ลักษณะของพื้นผิวถนน
หากถนนเป็นพื้นผิวเรียบ มีความขรุขระน้อย จะก่อให้เกิดอาการเหินน้ำได้ง่ายกว่าพื้นถนนที่เป็นยางมะตอย เนื่องจากมีพื้นผิวที่ขรุขระ มีร่องและรูตามผิวถนน ทำให้ยางรถยนต์สามารถเกาะถนนได้ดีกว่า

3. ดอกยางรถยนต์
ยางรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญหลักในการขับขี่ และ ยางถือเป็นปัจจัยหลักในการทำให้เกิดรถเหินน้ำได้อีกด้วย หากคุณใช้ยางที่เสื่อมสภาพ ดอกยางมีความลึกที่น้อยเกินไป ก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำของยางลดลง ยิ่งทำให้เกิดอาการรถเหินน้ำขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ

ซึ่งนอกจากดอกยางจะช่วยในเรื่องของการรีดน้ำแล้ว ดอกยางยังมีผลต่อระยะการเบรกรถอีกด้วย เพราะการเบรก แปรผันตามความลึกของร่องดอกยาง เรียกได้ว่า ถ้าร่องดอกยางลึก ก็สามารถเบรกได้ระยะสั้นลง หรือ เบรกดีกว่านั้นเอง
โดยร่องดอกยางที่ดี ควรมีความลึกไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร โดยดอกยางใหม่ควรมีร่องความลึกอยู่ระหว่างตั้งแต่ 6-8 มิลลิเมตร หากดอกยางมีความลึกน้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ควรเปลี่ยนยางเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ จะดีที่สุดครับ

จะเห็นได้ว่าดอกยางนั้น ถือเป็นปัจจัยหลัก หรือคีย์สำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการรถเหินน้ำได้เมื่อต้องขับขี่ผ่านแอ่งน้ำ หรือถนนที่เปียกขณะฝนตก และเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าเดิมในการขับขี่ Mr. FIT แนะนำให้คุณมาตรวจเช็กสภาพยาง และ รถได้ที่ FIT Auto ทุกสาขา เพราะเรามีช่างผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยบริการและให้คำแนะนำทุกคนอยู่ครับผม

📱 ติดตามข่าวสารทาง Instagram : https://bit.ly/3it73jd

📲 โหลด FIT Auto ได้แล้ววันนี้ : https://downloadapp.pttfitauto.com/

🕵 ค้นหา FIT Auto ใกล้บ้าน : www.pttfitauto.com/th/branch

🔧 จองบริการตรวจเช็กฟรี : www.pttfitauto.com/th/booking

☎️ ติดต่อ Call Center โทร : 1365 กด 17
version: 1.0.3