พ่วงแบตรถยนต์ ฉบับมือใหม่หัดจัมพ์
โพสต์เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 21
ตอนขับก็ปกติ พอสตาร์ทเครื่องดันไม่ติดซะงั้น ?
คนที่ใช้รถหลายคนคงเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ใช่ไหมครับ น้ำมันก็ไม่หมด ตอนขับก็ขับได้ปกติ ไม่มีปัญหา เครื่องยนต์ก็ทำงานปกติ แต่พอดับเครื่องไว้ซักพักแล้วมาสตาร์ทอีกครั้ง กลับสตาร์ทไม่ติดซะงั้น ปัญหานี้เกิดจากอะไร เดี๋ยว Mr. FIT มาเล่าให้ฟังครับ 😄
แบตเตอร์รี่รถยนต์ ที่เป็นแหล่งพลังงานหลักของรถยนต์ เมื่อแผ่นธาตุในแบตเตอร์รี่รถยนต์เสื่อมหรือเก็บไฟไม่อยู่แล้ว ทั้งกระแสไฟฟ้าและแรงเคลื่อนไฟฟ้าจะมีไม่พอที่จะทำให้มอเตอร์สตาร์ทหมุนให้เครื่องยนต์ติดได้ สาเหตุที่ทำให้แผนธาตุในแบตเตอรี่เสื่อมหรือหมดอายุการใช้งานเกิดจากปัจจัยดังนี้
ดังนั้นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เพื่อกระตุ้นการทำงานของแบตเตอร์รี่และช่วยทำให้มอเตอร์สตาร์ทหมุนให้เครื่องยนต์ติดได้ คือ “การพ่วงแบตฯ หรือ การจัมพ์สายแบตฯ” โดยให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
อันดับแรกเลย คุณจะต้องเตรียมสายพ่วงแบตรถยนต์ หรือสายจั๊มแบตให้เรียบร้อยก่อน แนะนำให้เก็บไว้ในรถของคุณตลอดเวลา เผื่อกรณีฉุกเฉินเราจะได้นำมาใช้งานทันที โดยสายพ่วงแบตเตอรี่จะมีทั้งหมด 2 เส้น ได้แก่ สีแดงคือประจุไฟขั้วบวก และสีดำหรือสีเขียวคือประจุไฟขั้วลบ ทั้งนี้ความยาวที่ดีของสายเเบตเตอรี่ควรลากมาพ่วงต่อกันได้ เพื่อไม่ให้รถมาชิดมากเกินไป เอาเป็นว่า!! เผื่อความยาวเอาไว้ดีกว่า
ต่อมาให้เรานำรถทั้งสองคันมาจอดใกล้กันประมาณครึ่งเมตร แต่อย่าจอดชิดกันเด็ดขาด แล้วปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าของรถทั้งสองคันให้หมด เช่น ไฟหน้า ระบบแอร์ วิทยุ และเครื่องเสียง เป็นต้น เพื่อป้องกันรถเกิดประกายไฟหรือระเบิดตามมาและต้องการให้กระแสไฟฟ้าทั้งหมดไปที่มอเตอร์สตาร์ทได้อย่างเต็มที่
หลังจากเราปิดสวิตช์อุปกรณ์ไฟฟ้าของรถแล้ว ให้เปิดฝากระโปรงรถทั้งสองคัน แล้วทำการต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ ดังนี้
ให้เราสตาร์ทรถยนต์ของคันที่แบตเตอรี่มีไฟเต็มก่อน ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วเร่งเครื่องยนต์เล็กน้อย ทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าภายในของตัวเเบตเตอรี่
หลังจากนั้นค่อยสตาร์ทรถคันที่เเบตหมด โดยเร่งเครื่องเล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่ามีกระแสไฟเข้าแบตเตอรี่แล้วหรือยัง แต่ถ้ายังสตาร์ทไม่ติดก็ลองสตาร์ทใหม่อีกครั้ง พอเครื่องกลับมาใช้งานปกติ ก็ปล่อยทิ้งไว้สัก 1-2 นาทีก่อน
สำหรับการถอดสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ให้ปลอดภัย ก็ต้องทำตามขั้นตอนด้วยเช่นกัน โดยเริ่ม
*** ข้อควรระวัง !! ***
ทั้งนี้การจัมพ์แบตเตอร์รี่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างตัวแบตเตอร์รี่ที่เสื่อมสภาพ ซึ่งสามารถมาเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ได้ที่ FIT Auto ทุกสาขา หรือถ้าต้องการความมั่นใจตลอดการขับขี่ ควรตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางเสมอด้วยบริการ “ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ 35 รายการ” ที่เปิดให้บริการที่ FIT Auto ทุกสาขาเช่นกันครับ